ตำรวจกองปราบปราม ได้เข้าจับกุม นางสาวนิษฐา หรือแม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 675/2563 ลงวันที่ 18 พ.ค. 63 หลังสืบทราบว่าไปรับเด็กมาเลี้ยงแล้วต้องสงสัยวางยาเด็ก ขอรับบริจาคเงินค่ารักษาได้เงินกว่า 10 ล้านบาท ก่อนเด็กจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่กิ่ง (นามสมมุติ) ได้เปิดใจว่า ตนได้เข้าช่วยเหลือน้องยิ้ม ที่ป่วยหนักแบบไม่มีสาเหตุ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยแม่ปุ๊กบอกทางเฟสบุ๊คว่า
น้องยิ้มเป็นโรคประหลาด ที่ 1 ในล้านจะพบ ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก จึงเปิดขอรับเงินบริจาค เห็นแล้วรู้สึกสงสารมากเลยโอนเงินให้ความช่วยเหลือไปบ่อยครั้ง และกลุ่มแม่ๆหลายคน ก็ให้ความช่วยเหลือเหมือนกัน
นอกจากนี้ ตัวของแม่ปุ๊กเองก็ขายของเพื่อหาเงินด้วย ตนก็อุดหนุนตลอดแต่ก็ไม่ได้ของ รวมทั้งอีกหลายคนก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ทวงถามอะไร เพราะคิดว่าอยากจะช่วยเหลือน้องยิ้ม แม่กิ่งติดตามน้องยิ้มตลอดจนกระทั่งน้องยิ้มเสียชีวิต ก็ไปงานศพน้องมา แต่ที่แปลกใจคือรูปหน้าศพของน้อง ไม่มีวันชาตะและมรณะ
ตอนนั้นหลายคนก็สงสัย แต่ไม่มีใครกล้าถามเพราะว่า เห็นแม่ปุ๊กอยู่ในอาการโศกเศร้า เลยไม่ได้สนใจอะไร ต่อมากลุ่มแม่ๆที่เรารู้จักก็มาบอกว่า โดนแม่ปุ๊กโกง บอกให้ลงของขายหน้ากากอนามัยให้หน่อย พอมียอดซื้อแล้ว ก็ไม่มีการส่งของให้กับลูกค้า ทำให้เสียหายหลักแสนและยังมีอีกหลายคนที่ถูกโกงเหมือนกัน หลายคนจึงบอกว่า แม่ปุ๊กเหมือนมิจฉาชีพ ประกอบกับว่า ไม่กี่เดือนต่อมา น้องอิ่ม ลูกคนเล็ก ป่วยเป็นโรคเดียวกับหนูยิ้มอีก
แม่กิ่ง เล่าต่อว่าตนก็เลยสงสัยว่า ตอนแรกแม่ปุ๊กบอกว่าน้องยิ้มเป็นโรค 1 ในล้านที่จะพบ ก็เลยสงสัยว่า ทำไมน้องอิ่มถึงได้ป่วยอีก และห่างกันในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน และอาการของทั้งคู่คล้ายกันเลย ทำให้ตนลองมาปะติดประต่อเรื่อง
ต่อมา ได้รับข้อมูลมาว่าตัวของน้องอิ่ม มีสารพิษอยู่ในร่างกาย ทำให้คิดได้ว่า แม่ปุ๊ก มีพฤติกรรมที่เอาสารเสพติด หยอดให้ลูกกินเพื่อเปิดรับเงินบริจาค ตนเลยขึ้นสเตตัสเฟสบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ตำรวจกองปราบโทรมาขอข้อมูลกับตน ซึ่งก็ยินดีที่จะให้
ต่อมา เราได้ทราบทางจนท.ว่า สารพิษที่อยู่ในร่างกายของน้องนั้น เป็นสารคล้ายกับน้ำยาล้างห้องน้ำ เพราะว่าหมอที่รักษาน้องบอกว่า ภายในร่างกายมีสารเสพติด และกระเพาะของน้องก็เป็นแผล อ้วกออกมาเป็นเลือด ความดันสูง ซึ่งอาการนี้ ทั้งน้องยิ้มและน้องอิ่มเป็นเหมือนกันเลย เราก็เลยคิดว่าตัวแม่ปุ๊กเอง น่าจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ และเราก็รู้สึกแย่มากที่มีข่าวแบบนี้ออกมา
ขอบคุณที่มา ข่าวสด