จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ น้องชมพู่ หนูน้อยวัย3 ขวบ หายออกจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 11 พ ค 63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม โดยผลชันสูตรจากโรงพยาบาลตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝง นอกจากนี้ ยังมีหมอธรรมและพระป่าออกมาทำนายจุดซ่อนเสื้อ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ โดยผ่านมา 29 วันแล้วแต่ก็ยังหาไม่พบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 63 ทีมข่าวเดินทางมาพบนายสนธยา ไชยโยธา สามีของนางขวัญใจ คนที่เป็นเจ้าของสุนัขที่เห่าในวันเกิดเหตุและเป็นเจ้าของกุญแจรถจักรยานยนต์ ที่ทีมข่าวไปพบเจอบนเขา ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า กุญแจที่ทีมข่าวนำเสนอเป็นกุญแจของตนจริง พอเห็นข่าวก็รู้ทันที โดยลักษณะที่จำได้แม่น คือ เหรียญรู 3 เหรียญ ลายกรงจักรที่ใส่ไว้ในพวกกุญแจ ซึ่งตนใส่ไว้เอง
กุญแจนี้หายไป 4 ถึง 5 ปีที่แล้ว โดยตนทำหายไปตอนที่ขึ้นเขาไปหาเห็ดและหาของป่า ตอนนั้นใส่กุญแจไว้ในกระเป๋ากางเกงและกระเป๋ากางเกงเกิดขาด ตนก็ไม่ทราบว่ากุญแจหล่นไปตอนไหน โดยใส่ไว้ที่กระเป๋าข้างตัว มารู้ตัวอีกทีตอนที่ลงจากเขามาแล้ว กุญแจพวงนั้นมีกุญแจตู้เสื้อผ้า ซึ่งตู้อยู่บ้านที่จังหวัดสกลนคร
ทั้งนี้ รถคันดังกล่าวตอนนี้ขายไปแล้ว ประมาณก่อนหน้านี้ปีเศษๆ ขายแบบไม่มีกุญแจ โดยรถใช้งานแบบต่อสายตรง ซึ่งขายให้กับคนในหมู่บ้านไป รุ่นรถจักรยานยนต์ คือเวฟ 100 กุญแจรถคันนี้ก็มีแค่ดอกเดียว ซึ่งตนพยายามตามหาแล้วแต่ไม่พบ ส่วนตัวจำได้ว่า ขึ้นเขาเส้นทางซ้ายของภูเขา และลัดเลาะไปตามทาง แต่ไม่แน่ใจว่าวันนั้นเดินไปไหนบ้าง
ตอนนี้ตนก็แจ้งข้อมูลนี้กับตำรวจแล้ว จนท.ตำรวจก็มาสอบถามที่บ้านตนหลายครั้งแต่ยังไม่มีการเชิญไปที่โรงพัก ส่วนตัวมั่นใจในความบริสุทธิ์ ไม่ได้เครียดอะไร ใจลึกๆก็ยังอยากได้เหรียญคืน เพราะเป็นเหรียญเก่า ตนอยากเก็บสะสมไว้เท่านั้น ไม่ได้มีการบูชาอะไร ส่วนวันเกิดเหตุตนนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งภรรยาตนก็ยืนยันได้ตนได้ยินเสียงหมาเห่าตอนนอนอยู่บนบ้านแต่ก็ไม่รู้ว่าหมาที่บ้านเห่าอะไร
วันดังกล่าวตนจำได้เพียงว่ามีเสียงหมากับรถขายตู้เข้ามาในซอยเท่านั้น ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ตอนค้นหาตนก็ยังไปช่วยค้นหาอยู่เลย.
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว