วันที่ 26 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สำนักงานจัดการภัยพิบัติของรัฐพิหาร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 25 มิ.ย. 2563 ว่า เหตุฟ้าผ่าทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ศพ ในเขตโกปัลกานจ์เพียงแห่งเดียว
ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลืออยู่ในเหตุฟ้าผ่าอีก 22 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ทั่วรัฐ นายสันทีป กุมาร เจ้าหน้าที่ของสำนักงานจัดการภัยพิบัติรัฐพิหาร กล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 5,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 163,800 บาท)
ด้านนายกรัฐมนตรี เนเรนทรา โมดี ทวีตข้อความว่า มีข่าวร้ายมากมายเรื่องการเสียชีวิตในบางเขตของรัฐพิหารและรัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดีย ระหว่างฝนตกหนักและฟ้าผ่า ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนโดยเร็ว และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของทุกปี อินเดียกับภูมิภาคเอเชียใต้เป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าเป็นจำนวนมาก โดยตามสถิติของสำนักงานประวัติอาชญากรรมแห่งชาติของอินเดีย ชี้ว่า ในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าในอินเดียถึง 2,885 ราย และ 2,357 ราย ในปี 2561 โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวไร่
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้มีช่วงว่างระหว่างฤดูร้อนอันแห้งแล้งกับฤดูฝนยาวนานขึ้น ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่ามากขึ้น โดยในปีที่มีผ่านมา รัฐพิหารมีรายงานเกิดฟ้าผ่าขึ้น 225,508 ครั้ง ขณะที่ในรัฐอุตตรประเทศมีฟ้าผ่า 322,886 ครั้ง โดยในระหว่างวันที่ 1 เม.ย. ถึง 31 ก.ค.62 มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าในทั้ง 2 รัฐรวม 394 ราย