ล่าสุดพบ! “ปลอกมีดไหม้ไฟ-ถุงเท้าเด็ก” ตำรวจคาดโยงมือฆ่าน้องชมพู่ พร้อมสอบพยานอีก 100 ปาก(คลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ที่หายจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ มุกดาหาร ก่อนที่จะพบเป็นศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก 5 กม. ซึ่งผลชันสูตรพบบาดแผลที่อวัยวะเพศ โดยขณะนี้ทางจนท.ตำรวจเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ซึ่งยังไม่เจอหลักฐานสำคัญอย่างเสื้อกล้ามของน้อง พบเพียงเสื้อลายพรางถูกเผา , พวงกุญแจรถตกบนเนินหิน , เหรียญสตางค์รู สภาพคล้ายโดนเผา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดพบศพมากนัก

ล่าสุด มีรายงานว่าพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ.กกตูม อีกครั้ง พร้อมเรียกประชุมแบบส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองกำกับการสืบสวนจังหวัดมุกดาหาร และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4

จากนั้น ในเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ ก็ได้เปิดเผยภาพรวมของการทำงานว่ามีความคืบหน้า50% แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลให้ทราบทั้งหมด เพราะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านและต้องเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ถือว่าได้ค่อนข้างน้อย จึงต้องหาพยานหลักฐานอื่นและพยานบุคคลเพิ่ม

เบื้องต้น ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเจาะจงหรือสงสัยกลุ่มใดเป็นพิเศษ บางคนอาจจะมีการเรียกมาคุยหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าสงสัยมากกว่าคนอื่น อาจจะมีเพียงข้อมูลบางอย่างที่ยังสงสัยเท่านั้น

affaliate-2

ส่วนประเด็นการเสียชีวิต จนท.ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อสงสัยเฉพาะแค่เรื่องแรงจูงใจทางเพศแต่มองไปถึงภาพรวมทั้งหมดว่า อะไรสามารถเข้าถึงเหยื่อได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้สามารถระบุได้ว่า คนร้ายเป็นใคร

เบื้องต้น สำหรับผลชันสูตรศพยังไม่พบดีเอ็นเอบุคคลแปลกปลอม รวมถึงข้อมูลที่ได้จากไสยศาสตร์นั้น ทางจนท.ก็จะรับฟังไว้ แต่ก็ต้องดูควบคู่ไปกับหลักฐานวิทยาศาสตร์ ตนไม่อยากให้ยึดติดกับเรื่องเหนือธรรมชาติมากเกินไป สามารถเชื่อได้ แต่ก็ขอให้อยู่บนพื้นฐานของหลักฐานด้วย พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า เกี่ยวกับหลักฐานที่ถูกค้นในป่าก่อนหน้านี้ เช่น เสื้อลายพราง หรือกุญแจรถจักรยานยนต์ว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่

ด้านเสื้อน้องชมพู่ที่หายไป หากพบในตอนนี้ก็ยังรับประกันไม่ได้ว่าจะหลงเหลือหลักฐานอะไรอยู่อีกหรือไม่ แต่ก็ต้องพยายามหากันต่อ ควบคู่ไปกับการสอบสวนพยานบุคคลที่ได้มากกว่า 100 ปาก และยังคงมีความหวังทุกวันว่าจะจับตัวคนร้ายได้

จากนั้น เวลาประมาณ 14.00 น. จนท.ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประมาณ 10 นาย กองกำกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดมุกดาหาร ประมาณ 30 นาย ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 10 นาย จนท.ป่าไม้จากอุทยานแห่งชาติภูผายล จำนวน 4 นาย และสื่อมวลชนอีกประมาณ 8 คน ได้ร่วมกันเดินค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมขึ้นไปเขาภูเหล็กไฟ โดยจะแบ่งเป็น 3 ทีม ทีมละประมาณ 10-15 คน เดินค้นหาบริเวณใต้จุดที่พบแหวนลงมาถึงตีนเขา

โดยจะเดินแยกกันออกไปจากบ้านน้องชมพู่ ผ่านป่ามันสำปะหลังฝั่งซ้ายของภูเขา เมื่อขึ้นเขาได้ประมาณ 400 ม. ทีมที่ 1 ก็เดินแยกลงไป จากนั้นก็เดินขึ้นมาอีกประมาณ 1 กม. ทีมที่ 2 ก็ได้แยกตัวออกไป โดยทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ไปกับทีมที่ 3 ซึ่งจะเดินขึ้นไปให้ถึงจุดพบแหวน และค้นหาลงมาด้านซ้ายของภูเขาจนถึงตีนเขา

affaliate-2

เมื่อเดินลงมาถึงตีนเขาด้านซ้ายพบลำธารที่ชาวบ้านเรียกว่า “ห้วยบุง” พบปลอกมีดที่ทำด้วยท่อ PVC ยาว 20 ซม. ที่มีรอยไฟไหม้และปลายด้ามมีรอยแตกชำรุด จุดนี้ห่างจากจุดพบศพ 4 กม. จนท.จึงได้เก็บปลอกมีดไว้เป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า จะเป็นปลอกมีดของชาวบ้านที่มาหาของป่า ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงเก็บไปตรวจสอบ โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชม. เริ่มตั้งแต่ 14.00-16.00 น.

นอกจากนี้ จนท.ตำรวจชุดเดินลาดตระเวน ยังพบถุงเท้า 1 ข้าง มีรอยปักคล้ายลายการ์ตูน ลักษณะสีขาว ปลายถุงเท้าลายสีฟ้าคราม ขนาดไม่ใหญ่มากตกอยู่ข้างทางขึ้นบนยอดภูเหล็กไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เจอแหวนเพียง 100 ม. เท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไปเพื่อพิสูจน์หลักฐานต่อไป.

ชมคลิปต้นเรื่อง

affaliate-2

ขอบคุณที่มา อมรินทร์ ทีวี

affaliate-2

error: Content is protected !!