เมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กล่าวว่า หลังจากที่พี่อุ๊บถอนตัวช่วยเหลือลุงพล และถอนเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ตนก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะขึ้นอยู่ที่พี่อุ๊บจะให้เงินส่วนนี้หรือไม่ ส่วนรางวัลนำจับที่ไม่ครบ 1 ล้านบาท เพราะพี่อุ๊บถอนตัวนั้น ในเรื่องนี้ตนได้ปรึกษากับภรรย าแล้ว จะเพิ่มเงินส่วนที่ขาดหายไปให้ครบ 1 ล้านบาท
เท่ากับว่าตอนนี้ตนรับผิดชอบเงินรางวัลนำจับ 5.5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม หากจะมีใครถอนตัวเพิ่มเติมอีก ตนยืนยันว่าใครจะถอนก็แล้วแต่ ตนกับภรรย าจะหาเงินรางวัลนำจับให้ได้ 1 ล้านบาท ตามที่ได้รับปากไว้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ส่วนเรื่องที่พี่อุ๊บถอนตัวจากรางวัลนำจับคดีน้องชมพู่ ตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องเหตุผลของพี่อุ๊บ อีกทั้งพี่อุ๊บก็ไม่ได้เล่าให้ฟังว่า ทำไมถึงถอนเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ส่วนทางด้านความคืบหน้าของคดี หลังมีกระแสข่าวว่าจะจับตัวคนร้ายหลังปีใหม่ ตนคิดว่าแค่ข่าวลวง ถ้าจริงตำรวจคงไม่บอกออกสื่อ ข่าวแบบนี้ออกมาเพื่อแลกยอดไลก์ ยอดคนดูเท่านั้น ไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
ขณะที่นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรือ อุ๊บ วิริยะ ผู้จัดการดาราชื่อดัง เปิดใจว่า เรื่องยุติช่วยเหลือในคดีของน้องชมพู่ และถอนเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพราะตนไม่สบายใจบางเรื่อง จึงถอยห่างออกมา ตอนแรกพร้อมมอบเงิน 1 แสนบาทเป็นเงินรางวัลนำจับ และให้ผู้ที่แจ้งเบาะแส เพื่อช่วยคดีนี้ เพราะอยากทำด้วยใจจริง
แต่เมื่อมาสัมผัสกับบ้านกกกอก ไปกลับเป็น 10 รอบ ได้สัมผัสกับทุกสิ่งทุกอย่างลึก ๆ แล้ว เริ่มรู้สึกว่า ไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่มีความสุข เครียดมาก ๆ จึงขอประกาศยุติการบริจาคเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพื่อความสบายใจของตน และยุติการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่บ้านกกกอก เพราะเรื่องนี้อึดอัดมาเป็นเดือนแล้ว และเป็นสิทธิ์ส่วนตัวใครมาบังคับไม่ได้
ส่วนเงิน 1 แสนบาทค่ารางวัลนำจับ ตนจะนำมาลี้ยงสุนัขจรจัด หรือคนที่ลำบากจริง ๆ ดีกว่า ส่วนงานที่ค้างคากับลุงพลป้าแต๋น ประมาณ 3-4 งาน ก็ไม่สามารถไปทำได้ ต้องยุติเพราะเป็นCV19 สำหรับลูกค้าบางรายที่วางเงินมัดจำค่าตัวมาแล้ว ลูกค้าก็ใจดี ยกเงินมัดจำให้ทั้งหมด หลังจากนี้หากสถานการณ์ดีขึ้น จะมีงานต่อหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกครั้ง จะพยายามแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว หลังจากนี้ตนยังจะไปบ้านกกกอก เพราะยังมีเพื่อนที่แสนดีอย่างป้าถอน และเจ้าของโฮมสเตย์ เจ้าของร้านกาแฟ ถ้าพ้นช่วงCV19 ไปแล้ว ก็จะไปเยี่ยมพร้อมครูชาไทย ตนยังมีเพื่อนและยังให้คำแนะนำกันอยู่เสมอ วอนสังคมอย่าดร าม่า เพราะเป็นเหตุผลส่วนตัว เรามีสิทธิ์ที่จะช่วย หรือไม่ช่วยใครก็ได้
นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เปิดเผยว่า ตนยังไม่รู้ข่าวพี่อุ๊บยุติการช่วยเหลือเงินรางวัลนำจับ 1 แสนบาท สำหรับคดีน้องชมพู่ ซึ่งตนมองว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่พี่อุ๊บ ได้พูดผ่านสื่อ เงินจำนวนนี้เป็นการช่วยเหลือน้องชมพู่ ไม่ได้เป็นเงินช่วยเหลือตน สิ่งที่พี่อุ๊บพยายามช่วยเหลือมาตลอด คือ ช่วยสนับสนุนเงินรางวัลให้จับคนที่ทำน้องชมพู่ ไม่ได้ช่วยจับคนที่ทำกับตน อย่างไรก็ตาม คิดว่า พี่อุ๊บคงยุ่งเรื่องงาน ตนไม่ได้คุยกับพี่อุ๊บนานแล้ว ส่วนใหญ่มีแต่ป้าแต๋น ที่พูดคุย งานที่ต้องร่วมกับพี่อุ๊บ ช่วงนี้ติดช่วงCV19 งานตอนนี้ทุกที่สะดุดหมด ไม่ใช่งานของตนอย่างเดียว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
งานของนักแสดงท่านอื่นก็กระทบไปด้วย ต้องระงับงานไว้ทั้งหมด แต่จำไม่ได้ว่ากี่งาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานวัดแถบภาคอีสาน ส่วนงานกับพี่อุ๊บมีร่วมกันวันเดียวคือ วันที่ 8 ม.ค.64 ซึ่งเป็นงานวันเด็กที่ จ.นครพนม ทั้งนี้อยากจะฝากขอบคุณพี่อุ๊บ ที่ช่วยเหลือ ตนและป้าแต๋นมาโดยตลอด อยากขอบคุณพี่อุ๊บ ที่เคยพูดผ่านสื่อ เรื่องอยากจะช่วยรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เงินรางวัลนำจับเป็นเงินที่อยู่ในอากาศ พอถึงวันที่จับได้เชื่อว่าทุกคนที่พูดไปแล้วก็จะนำเงินมาร่วมกัน จึงอยากขอบคุณพี่อุ๊บมาในที่นี้ด้วย สำหรับกระแสข่าว หลังปีใหม่ตำรวจเตรียมออกหมาย ถ้าตำรวจทำงานตลอดเวลา เชื่อว่าน่าจะมีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดกับคนที่ทำได้
ลุงพล ยังเผยอีกว่า ตนจะเดินทางไป จ.ปทุมธานี พร้อมกับป้าแต๋น เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านบอกว่าจะให้ไปเข้าเครื่องจับเท็จในวันที่ 8 ม.ค.64 ตามที่ตนเองเคยให้คำมั่นสัญญาว่า หากเจ้าหน้าที่จะพาไปเข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็ยินดี พร้อมให้ความร่วมมือทุกมิติทุกขั้นตอน แต่ในวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่า เจ้าหน้าที่จะพาไปที่ไหน
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์