สำหรับกรณีของน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ที่หายตัวออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 11 พ ค 63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. จนกระทั่งเวลาผ่านมาแล้ว 39 วันแต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุหรือคนร้ายได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 63 เวลาประมาณ 10.00 น. ทางจนท.ตำรวจได้เดินทางมาที่หมู่บ้านกกกอก เพื่อรับตัวพ่อและแม่น้องชมพู่ รวมถึงชาวบ้านอีก 6 คนไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยรายชื่อทั้ง 8 คน ประกอบไปด้วย

1)นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่
2)นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่
3)นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านเจ้าของไร่มันสำปะหลังที่น้องชมพู่เคยไปนั่งเล่น
4)นางสายสมร แสนทวงศ์ (ภรรยานายโชติช่วง ผู้ที่เจอรอยเท้าใต้ตนกระโดน)
5)นายวา (ผู้ต้องสงสัย) ช่างที่ทำงานอยู่ข้างบ้านนายพิษณุพร
6)นายโด่ง ช่างที่ทำงานอยู่ข้างบ้านนายพิษณุพร
7)นายม็อค (สามีแม่ถอน นางนลิน)
8)น.ส.สุจิตตรา (ภรรยาของนายพิษณุพร)
โดยก่อนที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่จะเดินทางไปยัง สภ.กกตูม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจสภ.กกตูม ได้นำรายชื่อของคนในหมู่บ้านมาให้ตนดูและได้เชิญทั้งหมดไปสอบปากคำในวันนี้
ซึ่งทุกรายชื่อนั้นไม่มีชื่อที่ตนสงสัยเลยและตนคิดว่าทั้งหมดนั้นใสสะอาด 100% ซึ่งตนก็ไม่งงอะไร เพราะคิดว่าตำรวจน่าจะต้องการข้อมูลบางอย่างจากคนเหล่านี้ หลังจากนั้นนางสาวิตรีและนายอนามัย ก็ได้เดินขึ้นรถของนายวา เพื่อเดินทางไปที่สภ.กกตูม
ต่อมา จนท.ตำรวจ สภ.กกตูม นำโดยพ.ต.ท.สุริยา นภกรีกำแหง สารวัตรใหญ่ ได้ลงพื้นที่มาเก็บขนสัตว์ในพื้นที่ โดยมีขนสุนัขขนแมว และขนหนูพุกที่ครอบครัวของน้องชมพู่เลี้ยงไว้ เนื่องจากน้องชมพู่ค่อนข้างมีความใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงในละแวกบ้าน
โดยได้เก็บขนสุนัขบ้านน้องชมพู่ 2 ตัว และหนูพุก 1 ตัว คือ เจ้าปลาส้ม สีน้ำตาล เพศเมีย อายุ 8 ถึง 9 เดือน เจ้าแก้ว สีน้ำตาล เพศเมีย อายุ 1 ปี และขนพ่อพันธุ์หนูพุก อายุ 7 เดือน ที่ครอบครัวน้องชมพู่เลี้ยงไว้

และเก็บขนสุนัขที่บ้านของนางนลิน หรือป้าถอน โดยเก็บขนเจ้าบิ๊ก สีน้ำตาล เพศผู้ อายุ 1 ปี และเก็บขนแมว คือ เจ้าเหมียว สีเทา เพศผู้ อายุ 1 ปี

ต่อมาตำรวจได้เก็บขนสุนัขจากบ้านของน้าต่าย น้องของแม่ชมพู่ โดยเก็บขนของเจ้าซูโม่ สีดำ-น้ำตาล เพศผู้ อายุ 3 ปี เจ้าสีทอง (ตัวสีดำ-ขาว) เพศผู้ อายุ 3 ปี

สุดท้ายได้เก็บขนสุนัขของบ้าน น.ส.ขวัญใจ เชื่อตาพระ หรือเปิ้ล อีก 2 ตัว โดยเก็บขนของเจ้ากาแฟ สีเทาแซมดำ เพศผู้ อายุ 2 ปี และเจ้าปีโป้ สีดำ เพศเมีย อายุ 5 ปี

ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า นอกจากน้องชมพู่จะเคยจับสัตว์เลี้ยงในละแวกบ้านแล้วยังเคยอุ้มหนูพุกที่ครอบครัวเลี้ยงไว้อีกด้วย โดยทีมข่าว ได้พูดคุยกับนายนรินทร์ หลาบโพธิ์ (น้าแต) อายุ 36 ปี น้าชายของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า
น้องชมพู่เป็นเด็กนิสัยร่าเริง จะชอบไปกอดไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน ทั้งสุนัขทั้งแมว และหนูพุกที่บ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งหนูพุกนี้จะเป็นสัตว์ที่ดุร้าย และจะไม่ให้ใครแตะต้องตัวนอกจากเจ้าของที่มีความสนิทและคุ้นเคย
ซึ่งน้องชมพู่ก็เคยจับหนูพุกที่เชื่องมาอุ้มเล่นเป็นประจำ โดยหนูพุกที่เลี้ยงไว้จะมีเพียงนางสาวิตรี คือ แม่น้องชมพู่ และตัวของน้องชมพู่เท่านั้นที่จะไปจับหรืออุ้ม ส่วนนายอนามัย ผู้เป็นพ่อของน้องชมพู่นั้น จะไม่ค่อยไปจับตัวหนูเพราะเขาไม่ค่อยถนัด

นายนรินทร์ กล่าวอีกว่า ตนไม่แน่ใจว่า ขนของหนูพุกจะติดอยู่ตามตัวของน้องชมพู่หรือไม่ เพราะหนูพุกที่น้องชมพู่ชอบอุ้มนั้นก็นำไปผสมพันธ์ุที่อื่นกว่า 1 ปีแล้ว และน้องชมพู่ก็ไม่เคยอุ้มหนูตัวอื่นเพราะมันไม่เชื่อง
อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า การที่ตำรวจมาตรวจสอบขนสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้าน จะต้องเกี่ยวข้องกับขนสัตว์บนน้องชมพู่แน่นอน
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว